Intel ประเทศไทยฉลองครบรอบ 50 ปี พร้อมปรับกลยุทธ์ใหม่ จากที่เมื่อก่อนโฟกัสไปที่ตลาดคอมพิวเตอร์ เปลี่ยนมาเป็นโฟกัสที่การเชื่อมต่อ Data แทน พร้อมให้ความสำคัญกับตลาด eSport ที่มีการเติบโตสูง
ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาทาง Intel นั้นก็ได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆให้กับผู้ใช้มาตลอด เริ่มตั้งแต่เม้าส์ตัวแรกของโลกที่ออกแบบมาในรูปทรงสี่เหลี่ยม จนมาถึงผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนรู้จักอย่างชิปไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกในชื่อว่า Intel 4004 เมื่อปี 1971 ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ CPU ที่ทำให้บริษัทเติบโตมาอย่างยิ่งใหญ่
นอกจากชิปแล้วทางอินเทลเองก็มีเทคโนโลยีอื่นๆที่หลายคนใช้ประจำแต่ไม่รู้ว่าอินเทลเป็นหนึ่งในกลุ่มของ 7 ยักษ์ใหญ่ที่ร่วมพัฒนาพอร์ต USB จนไปถึงพอร์ต Thunderbolt , การใช้งาน Wi-Fi กับแล็ปท็อปเป็นครั้งแรกกับชิแ Intel Centrino เมื่อปี 2003 เป็นต้น
แน่นอนว่าในยุคปัจจุบันพฤติกรรมผู้ใช้ตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก ซึ่งคนส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์น้อยลง หันไปใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่มีความคล่องตัวกว่า ทาง Intel เองก็ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ จากเดิมที่เน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้พีซีเป็นหลัก (PC-Centric) เปลี่ยนมาเป็นเน้นที่การเชื่อมต่อและนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์แทน (Data-Centric)
ไม่ว่าจะเป็นการช่วยธุรกิจต่างๆในการเปลี่ยนผ่านองค์กรมาสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) โดยเอาเทคโนโลยีต่างๆที่อินเทลมีอยู่ในมือไปปรับใช้ให้เหมาะสม, การเชื่อมต่อข้อมูลความไวสูงด้วยโมเดม 5G บนสมาร์ทโฟน หรือการใช้ประโยชน์จากระบบ Cloud ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยปลดล็อกธุรกิจทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
มุ่งเน้นตลาด eSport มากขึ้น
จริงๆแล้วทางอินเทลนั้นไม่ได้เพิ่งมาสนใจเรื่องเกมนะ แต่เค้าให้การสนับสนุนมาต่อเนื่อง 15 ปีแล้วผ่านการสนับสนุนอีเวนท์เกี่ยวกับเกมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Thailand Game Show, การจัดการแข่งขันเกม รวมถึงร่วมมือกับผู้พัฒนาเกมในการปรับการทำงานของฮาร์ดแวร์ให้ใช้งานดีขึ้น
หนึ่งในตลาดที่ทางอินเทลให้ความสำคัญก็คือ ตลาด eSport ที่มีอันตราการเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก ปัจจุบันทั่วโลกมีคนเล่นเกมราวๆ 2,000 ล้านคนหรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะฝั่งของคนเล่นเท่านั้น แต่ในฝั่งของคนดูกีฬาอีสปอร์ตเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน กลายเป็นอีกรูปแบบความบันเทิงที่คนให้ความสนใจ โดยยอดคนดูขาประจำระหว่างปี 2016 -2021 จะเพิ่มขึ้นถึง 15.6% ส่วนคนดูขาจรนั้นจะเพิ่มขึ้น 13.9%
ในส่วนของตลาดเอเชียแปซิฟิกเอง ไทยก็ถือว่ามีความพร้อมด้าน eSport สูงมากทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและอีโคซิสเต็มต่างๆ ปัจจุบันมีคนไทยเล่นเกมประมาณ 27.47 ล้านคน ซึ่งเล่นเกมผ่านคอมพิวเตอร์อยู่ที่ราวๆ 16.3 ล้านคน ที่น่าสนใจก็คือ 1 ใน 3 นั้นจะเป็นเกมเมอร์หญิง ส่วนยอดคนดูอีสปอร์ตนั้นตอนนี้อยู่ที่ 2.6 ล้านคน
สาเหตุหลักที่ทางอินเทลให้ความสำคับกับคนกลุ่มนี้เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง ต้องการฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งเป็นจุดชี้เป็นชี้ตายในการแข่งขันได้ นอกจากนั้นคนกลุ่มนี้ยังเปลี่ยนหรืออัพเกรดฮาร์ดแวร์บ่อยกว่าคนทั่วไปเฉลี่ย 3-4 ปีครั้ง จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้มียอดขายเติบโตเร็วที่สุด
ทางอินเทลเองก็ได้เตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ตอบโจทย์กลุ่มคอเกม เริ่มตั้งแต่ CPU ซีรีย์ต่างๆ, หน่วยความจำ Optane ที่ช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีการร่วมพัฒนากับบริษัทต่างๆในการพัฒนาฮาร์ดแวร์ต่างๆ เช่น
- ร่วมพัฒนาจอประหยัดพลังงานกับ Dell เมื่อใช้งานคู่กับ CPU ของอินเทลแล้ว สามารถเปิดคลิปวิดีโอได้ต่อเนื่องทั้งวัน โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่
- จับมือกับ HTC Vive ในการพัฒนาตัวรับสัญญาณไร้สาย ช่วยให้ไม่ต้องต่อสายกับตัวแว่นตา VR อีกต่อไป ทำให้เล่นเกมสนุกขึ้นโโยไม่มีสายมากวนใจ
- พัฒนาชุดสำหรับ Live Boardcast ที่ใช้งานง่าย สำหรับคนที่ทำงานด้านแคสเกม เน้นการใช้งานง่าย เชื่อมต่ออุปกรณืได้หลากหลายเหมือนห้องส่งมืออาชีพ
